Skip to main content

ในโอกาสที่พิพิธภัณฑ์สามัญชนจัดงาน Reading Under the Red Star อ่านออกเสียง เรื่องเล่าคนเข้าป่า กิจกรรมอ่านหนังสือบันทึกเรื่องเล่าของคนที่เคยคนเข้าป่าไปร่วมการต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย คุณ แคน สาริกา หรือ สหายประชา นักเขียนอิสระที่มีผลงาน เช่น เปลือย ป่าแดง เสียงเพลงจากภูพาน และวาระสุดท้ายแห่งชีวิต จิตร ภูมิศักดิ์ ได้มอบวารสาร อธิปัตย์ ฉบับเดือน พฤษภาคม 2521 ซึ่งจัดพิมพ์ในเขตป่าเขาให้ทางพิพิธภัณฑ์นำมาแสดงในงานและเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในโอกาสต่อไป ทางพิพิธภัณฑ์จึงถือโอกาสพูดคุยกับคุณแคนสั้นๆถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่เขาเข้าไปร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย




                                                                                 เสียงเพลงจากภูพาน และ เปลือย ป่าแดง ผลงานการเขียนของ แคน สาริกา

คุณแคน เล่าว่าเขาเป็นชาวจังหวัดนครนายก ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เขาเรียนมหาวิทยาลัยที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา) ช่วงต้นปี 2519 คุณแคนไปทำกิจกรรมกับชาวบ้านที่อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีลักษณะเป็นการทำนาแบบคอมมูนหรือนารวม ทำให้ถูกฝ่ายความมั่นคงเพ่งเล็ง และมีการปิดล้อมหมู่บ้าน หลังจากประเมินสถานการณ์ร่วมกับคนในพื้นที่ ทั้งหมดเห็นตรงกันว่าหากคุณแคนจะอยู่ในพื้นที่ต่อไปน่าจะไม่ปลอดภัย เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับกรุงเทพ

หลังกลับเข้าเมืองเพื่อนของคุณแคนซึ่งเป็นสมาชิกศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) สอบถามเขาว่าทางศูนย์ฯได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่บ้านโพนทอง ในจังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภออำนาจเจริญในขณะนั้ัน) ว่าลูกของเขาสามคนถูกอส.ในหมู่บ้านยิงเสียชีวิต จึงอยากให้ตรวจสอบ เขาจึงรับกับเพื่อนว่าจะไป

หลังไปลงพื้นที่ ได้ไม่นาน มีกระแสข่าวว่าจะมีอส.เข้ามาทำร้ายเขา ชาวบ้านที่เป็น "หน่วยกองป่า" ประจำหมู่บ้าน (คนของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่เข้ามาประสานงานในหมู่บ้าน) ได้ถ่ายภาพเขาและประสานไปยังทหารป่าว่ามีนักศึกษาในหมู่บ้านที่อาจเป็นเป้าโจมตีของทางการ ทางทหารป่าจะรับนักศึกษาคนดังกล่าวเข้าไปอยู่ในป่าได้หรือไม่ หรือจะให้ออกไปนอก
พื้นที่ ทางทหารป่าจึงตัดสินใจรับคุณแคนเข้าไปอยู่ในป่า โดยเขาได้ไปปฏิบัติงานที่เขตงาน 444 อีสานเหนือ หรือเขตงานภูสระบัว

คุณแคนเล่าต่อไปว่าตัวเขาเองไม่ได้เป็นคนที่มีความรู้เรื่องทฤษฎีคอมมิวนิสต์หรือเคยทำงานกับตัวแทนของพรรคมาก่อนแต่อย่างใด เขาเป็นเพียงคนที่ทำกิจกรรมในฐานะอิสรชนคนหนึ่งและไม่ได้มีใครเป็น "จัดตั้ง" มาก่อน แต่เนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยและสถานการณ์ที่พาไป เขาเลยต้องตัดสินใจเข้าป่า ชาวบ้านที่มีประสานงานเรื่องการเข้าป่าให้เขาก็เล่าให้ฟังว่าลูกของชาวบ้านคนนั้นเข้าป่าไปแล้วและทางพรรคได้ส่งลูกของเขาไปเรียนหมอที่เมืองจีน ถึงตรงนี้คุณแคนยังเล่าด้วยว่าสถานการณ์การปฏิวัติในแต่ละพื้นที่จะมีความแตกต่างกันไป อย่างในพื้นที่ของเขาช่วงก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลา มีชาวบ้านบางส่วนที่ขายที่นาเพื่อซื้ออาวุธ หรือตัดเย็บเครื่องแบบกันเอง    

หลังเข้าป่า คุณแคนได้รับมอบหมายให้ทำงานด้านการโฆษณา เขาถูกส่งตัวไปเรียนด้านการเขียนและการทำข่าวที่ภูพานซึ่งเป็นเสมือนสำนักใหญ่ในพื้นที่ ที่ภูพานนี้เองคุณแคนได้พบกับวัฒน์ วรรลยางกูร ซึ่งวัฒน์เป็นผู้ตั้งชื่อนามปากกา "แคน สาริกา" ให้กับเขา โดยสาริกามาจากชื่อน้ำตกที่จังหวัดนครนายก บ้านเกิดของเขา หลังเสร็จสิ้นการอบรมคุณแคนได้รับบัตรนักข่าวที่ทางพรรคเป็นผู้ออกให้ซึ่งถึงวันนี้เขาก็รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เก็บบัตรนักข่าวใบนั้นไว้ ตลอดเวลาที่เข้าป่าคุณแคนเล่าว่าเขาทำหน้าที่เป็น "นักข่าวสงคราม" ติดตามสหายแนวหน้าไปทำข่าวสงครามหลายครั้ง นอกจากการไปทำข่าวสนามแล้วคุณแคนยังมีหน้าที่ฟังข่าววิทยุทั้งจากสถานีวิทยุปักกิ่ง สำนักข่าวต่างประเทศ เช่น บีบีซี รวมถึงสถานีวิทยุของทางการไทยเพื่อนำไปเขียนข่าวเผยแพร่ภายในเขตป่าเขาด้วย

คุณแคนออกจากป่าในปี 2525 หลังออกจากป่าเขาไม่ได้กลับไปศึกษาต่อ แต่ยังคงปักหลักทำกินอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน โดยทำงานเป็นนักเขียนอิสระ ก่อนจะเข้ากรุงเทพมาทำงานกับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง

คุณแคนเล่าให้ทางพิพิธภัณฑ์ฟังถึงหนังสือ เปลือยป่าแดง และหนังสือเสียงเพลงจากภูพานด้วยว่า หนังสือเปลือยป่าคือหนังสือที่เขาเขียนถึงผู้คนโดยเฉพาะสหายชาวบ้านที่แม้หลังเข้าร่วมการต่อสู้คุณภาพชีวิตของเขาก็ยังไม่ได้ดีขึ้นมากนัก  ส่วนหนังสือเสียงเพลงจากภูพานคุณแคนเล่าว่าเขาเขียนขึ้นเพื่อเล่าถึงความเชื่อมโยงของบทเพลงที่ขับขานในเขตป่าเขากับเพลงเพื่อชีวิตซึ่งขับร้องกันในเมือง โดยเฉพาะตามผับเพื่อชีวิต

เรื่องและภาพโดย อานนท์ ชวาลาวัณย์