25 เมษายน 2567 พรรคชาติพัฒนากล้า จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 โดยหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้คือ การเปลี่ยนชื่อพรรคจาก "ชาติพัฒนากล้า" เป็น "ชาติพัฒนา"
พรรคกล้า เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นช่วงกลางปี 2563 มีกรณ์ จาติกวณิช อดีตสส.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หัวหน้าพรรค และมีอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์อย่างอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค
นโยบายสำคัญของพรรคกล้าเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน โดยพรรคกล้าได้ลงสนามการเมืองครั้งแรกปี 2565 ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ขณะที่สมาชิกคนสำคัญของพรรคอย่างอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคกล้าครั้งแรกในการเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร กรุงเทพฯ โดยได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่สาม
ในปี 2565 พรรคกล้าลงสนามเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ส่งผู้สมัคร 12 คน แต่สุดท้ายไม่มีผู้สมัครของพรรคคนใดได้รับเลือก
ในเดือนกันยายน 2565 กรณ์ และอรรถวิชช์ แกนนำคนสำคัญของพรรคกล้าได้ไปเข้าร่วมทำงานการเมืองกับพรรคชาติพัฒนาของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคชาติพัฒนาครั้งที่ 1/ 2565 ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรค "ชาติพัฒนากล้า" ในการเลือกตั้งทั่วไป 2566 กรณ์ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคด้วย แต่ไม่ได้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ
ผลการเลือกตั้งทั่วไป 2566 ปรากฏว่าพรรคชาติพัฒนากล้าได้ ส.ส. จำนวน 2 คน ในช่วงที่พรรคก้าวไกลกำลังพยายามรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐก็มีรายงานว่าพรรคชาติพัฒนากล้าได้รับการติดต่อให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย แม้ว่าพรรคชาติพัฒนากล้าจะมีจุดยืนไม่แก้ไขหรือยกเลิกกฏหมาย112 ซึ่งสวนทางกับจุดยืนของพรรคก้าวไกล จนเกิดแฮชแท็กต่อต้านบนโลกออนไลน์ #มีกรณ์ไม่มีกู ทำให้พรรคก้าวไกลขอยุติการเข้าร่วมเจรจาจัดตั้งรัฐบาล
29 พฤศจิกายน 2566 กรณ์ จาติกวนิชลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ต่อมาในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ประชุมก็มีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็นพรรค "ชาติพัฒนา" ดังเดิม
สำหรับ พรรคกล้ายังคงมีสถานะเป็นพรรคการเมือง ไม่ได้ถูกยุบไปรวมกับพรรคชาติพัฒนา มีเพียงแกนนำคนสำคัญเช่นกรณ์และอรรถวิชช์ที่ไปเข้าร่วมกับพรรคชาติพัฒนาก่อนที่พรรคชาติพัฒนาจะเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า