Skip to main content

8 มีนาคม 2567 วันสตรีสากล ที่โรงเบียร์สหประชาชื่น กานต์ ทัศนภักดิ์ ศิลปินช่างภาพจัดแถลงข่าวเปิดตัวนิทรรศการ Being A Transwoman Nude Photos Art Exhibition นิทรรศการภาพถ่ายผู้หญิงข้ามเพศ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่ Atrium 1 ชั้น G Siam Center ระหว่างวันที่ 12 - 20 มีนาคม 2567

กานต์ ระบุว่า Being Project ต้องการผลักดันประเด็นความหลากหลายทางเพศในหลายๆมิติ ทั้งความเท่าเทียม สิทธิ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตัวเขาในฐานะศิลปินมีความเชื่อว่างานศิลปะมีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ จึงได้ทำโปรเจคนี้ขึ้นมา โดยโปรเจคนี้เป็นการทำงานร่วมกับคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยตัวชิ้นงาน จะเป็นภาพถ่ายขาวดำ ถ่ายแบบ Low Key คือใช้แสงน้อย ในพื้นที่มืด โดยภาพถ่ายทั้งหมดมี 60 ภาพ และมีนางแบบจากหลากหลายวัยและอาชีพรวม 11 คน เข้าร่วมโครงการ สำหรับเหตุผลที่เลือกใช้เทคนิคการถ่ายภาพแบบ Low Key กานต์ระบุว่าเขาต้องการสื่อว่ากลุ่มคนข้ามเพศมีอยู่จริง ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่ คนข้ามเพศก็คือคนธรรมดาที่มีอารมณ์สุข เศร้า โกรธ ไม่ต่างจากคนทั่วไป โลกนี้เต็มไปด้วยความหลากหลายและความหลากหลายไม่ได้ทำให้เราต่างกันในฐานะมนุษย์ กานต์ระบุด้วยว่าในวันเปิดนิทรรศการเขาตัดสินใจฉีกขนบการเปิดงานศิลปะด้วยการเชิญ คุณอุ้มบุญ (อุ้มบุญ หมายเขา) คนข้ามเพศผู้พิการมาเป็นคนกล่าวเปิดงาน สำหรับนิทรรศการครั้งนี้งบประมาณที่ใช้จัดงานถือว่าค่อนสูง ซึ่งเบื้องต้นเขาใช้เงินส่วนตัวและมีเพื่อนฝูงให้ยืมลงไปก่อน โดยหลังจากเปิดงานก็จะระดมทุนผ่านการจำหน่ายเสื้อที่ระลึกและเปิดประมูลภาพต่อไป

ผ.ศ.ภาสกร อินทุมาร จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ของงานระบุว่า เบื้องต้นเขาพูดคุยเรื่องนิทรรศการนี้กับกานต์เป็นการส่วนตัว แต่ก็เห็นว่าพันธกิจของคณะศิลปกรรมศาสตร์ต้นสังกัดของเขามีวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งความหลากหลายทางเพศก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงได้ไปพุดคุยกับทางคณะให้เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในการจัดงาน ซึ่งทางคณะก็เห็นด้วย จึงได้เป็นพาร์ทเนอร์จัดงานกัน ภาสกรระบุว่าตัวเขาเองสอนด้านการละคร จึงเข้ามาช่วยงานในส่วนของการให้คำแนะนำกับนางแบบโดยเฉพาะในเรื่องการแสดงท่าทาง โดยหลังจากนี้คงจะหารือกับทางคณะต่อไปเรื่องความเป็นไปได้ในการนำนิทรรศการนี้ไปจัดแสดงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.พรรคก้าวไกลระบุว่า กลุ่ม Transgender ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเลือกปฏิบัติมากที่สุด ถ้าพูดถึงรูปนู๊ด คนจะถึงถึงแบบที่เป็นเพศหญิงหรือเพศชาย แต่นิทรรศการนี้จะแสดงให้เห็นถึงความสวยงามในรูปแบบที่ต่างออกไป และไปความสวยงามที่มีอยู่จริงในสังคม ธัญวัจน์ยังเชิญชวนให้คนทุกกลุ่มไปชมนิทรรศการนี้เพราะถือเป็นนิทรรศการที่ศิลปินสร้างและส่งต่อแรงบันดาลใจของตัวเอง จึงเชื่อว่าเมื่อผู้ชมมาชมงานแล้วจะได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างกลับไป

ในงานแถลงข่าวมีนางแบบสามจาก 11 คน ที่ร่วมถ่ายแบบมาร่วมงานแถลงข่าวด้วย


ปิรยุทธ ศิริบุตร หรือน๊อค ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพยาบาล ระบุว่า เธอเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าคนหนึ่งคนมีบทบาทที่หลากหลายได้อย่างตัวเธอทางหนึ่งก็เป็นข้าราชการ เป็นพยาบาลแต่ก็สามารถมาเป็นแบบได้ พร้อมสะท้อนว่าตัวของเธอในฐานะข้าราชการต้องเผชิญกับการปฏิบัติที่แตกต่างในระบบ ซึ่งสิ่งที่เธอหวังไม่ใช่การปฏิบัติที่แตกต่างหรือเป็นพิเศษจากสังคม เธอแค่หวังถึงการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

ขณะที่ปรามี ไวจงเจริญ หรือส.ส.จวง จากพรรคก้าวไกลระบุว่า ตามรายงานของธนาคารโลก กลุ่มคนข้ามเพศคือกลุ่มคนที่ถูกเลือกปฏิบัติในมิติต่างๆมากที่สุด สำหรับวันนี้เป็นวันสตรีสากล เธออยากชวนให้ทุกคนมองวันนี้ในฐานะวันที่เราลุกขึ้นมาเรียกร้องหรือแสดงออกว่าเราต่างเป็รนมนุษย์เหมือนกัน สำหรับนิทรรศการนี้ตัวเธอมองว่าหมุดหมายสำคัญคือการแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของคนข้ามเพศ

ด้านศศิน กรณ์ถาวรวงศ์หรือหนูสีซึ่งประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจเป็นคนข้ามเพศที่อายุมากที่สุดที่ร่วมเป็นนางแบบในนิทรรศการนี้ระบุว่า เธอรู้สึกดีใจที่ถูกเลือกเป็นนางแบบ เหมือนกับว่าเรื่องที่เคยอยู่ในหลุมดำมืดของจักรวาลได้ถูกเปิดเผย หนูสีกล่าวต่อไปว่าเธอเป็นคนข้ามเพศมา 35 ปีแล้ว แต่ยังต้องอยู่กับคำว่า "นาย" และไม่รู้ว่าจะต้องอยู่กับคำๆนี้ไปอีกนานแค่ไหน ซึ่งตัวเธอรู้สึกตะขิดตะขวงใจทุกครั้งที่ถูกเรียกชื่อด้วยคำนำหน้านี้ ซึ่งในประเด็นเดียวกันนี้ว่า ตัวเขาเป็นผู้ชายข้ามเพศ แต่บัตรประชาชนยังเป็นนางสาวซึ่งเขามีความรู้สึกทุกครั้งที่ถูกเรียกด้วยคำนำหน้านี้ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงไม่สามารถเรียกชื่อหรือชื่อเล่นโดยไม่ต้องระบุคำนำหน้าเหล่านี้ กานต์ยังระบุเกี่ยวกับร่างกฎหมายรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่เพิ่งถูกสภาโหวตคว่ำด้วยว่า น่าเสียดายที่กฎหมายดังกล่าวถูกคว่ำไป เพราะถ้าจะยกเหตุผลเรื่องการปลอมแปลงหรือการหลอกลวง แม้จะสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อได้ก็เชื่อว่าน่าจะมีวิธีการป้องกันได้