Skip to main content

ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ทหารตำรวจสนธิกำลังไปที่ร้านกาแฟ Life Coffee Slow ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อทำการตรวจสอบสิ่งของที่คาดว่าน่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคง ของชิ้นดังกล่าวไม่ใช่อาวุธสงคราม แต่เป็นบอร์ดเกม ข่าวดังกล่าวทำให้บอร์ดเกม Patani Colonial Territory บอร์ดเกมที่ผลิตโดยนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ของปาตานีซึ่งถูกการเรียนการสอนประวัติศาสตร์กระแสหลักทำให้เป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม

“เราแค่อยากย่อยประวัติศาสตร์ยากๆ เข้าถึงคนทั่วไปลำบาก ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น”

อารีฟีน โสะ นักกิจกรรมจากปลายด้ามขวานซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมสร้างสรรค์บอรร์ดเกมนี้เล่าถึงที่มาที่ไปของเกม

อารีฟีนระบุว่าตัวเขาเองเป็นคนที่เล่นบอร์ดเกมอยู่แล้วเลยมีความคิดที่อยากจะเอาเรื่องราวต่างๆของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิดในมิติต่างๆมาบอกเล่าผ่านเกม อารีฟีนยอมรับว่าตัวเขาเองแม้อยากจะทำบอร์ดเกมแต่ก็รู้ว่ามีข้อจำกัดเรื่องทุน จนเมื่อคณะก้าวหน้าประกาศเปิดให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์เขียนโครงการมาเสนอเพื่อรับทุนไปทำงานเพื่อนของเขาที่ทำสำนักพิมพ์และมีความคิดอยากทำบอร์ดเกมเหมือนกันจึงชวนเขามาพูดแล้วจนสุดท้ายก็ตัดสินใจทำโครงการร่วมกันจนท้ายที่สุดโครงการของเขากับเพื่อนก็ได้รับเงินสนับสนุนจากคณะก้าวหน้ามา 20,000 บาท

"พอผมกับเพื่อนที่ทำสำนักพิมพ์เล็กๆที่ชื่อ KOPI รู้เรื่องโครงการของคณะก้าวหน้าก็เลยลองพูดคุยระดมไอเดียกัน ผมเองเคยเห็นเกมของ Elect ที่จับไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์การเมืองไทยก็เลยเอาโมเดลนั้นปรับมาใช้กับเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของสามจังหวัดดู เราก็คุยกันว่าจะรวมช่วงเวลาไหนไว้บ้างดีสุดท้ายก็เลยคุยกันว่าจะเริ่มไทม์ไลน์จากช่วงปีค.ศ. 1785 ที่ปาตานีแตกตกเป็นประเทศราชของสยาม จนถึงช่วงค.ศ. 2000 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีเหตุการณ์ปล้นปืน ที่เราตัดสินใจขีดเส้นแค่ปี 2000 เป็นเพราะเราคิดว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นมันมีความซับซ้อน ตัวละครก็หลากหลาย เลยคิดว่าอยากลองดูผลตอบรับของเกมที่เราจะทำออกมาครั้งแรกนี้ก่อน ถ้ามีกระแสตอบรับดีก็อาจจะเอาเหตุการณ์อื่นๆมาทำเกมต่อไป"

อารีฟีนเล่าว่าการทำเกมใช้เวลาไม่นานนักประมาณสองถึงสามเดือนก็แล้วเสร็จ เขากับเพื่อนเริ่มการทำงานด้วยการค้นข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์เพื่อหาว่าเหตุการณ์ใดบ้างที่สมควรถูกนำมาไฮไลท์ในเกม หลังจากได้เหตุการณ์ทั้งหมดแล้วก็ไปว่าจ้างนักศึกษาในพื้นที่ที่มีคตวามสามารถด้านกราฟฟิกดีไซน์มาวาดภาพระกอบของการ์ดแต่ละใบ โดยที่คนวาดภาพประกอบเพียงแต่รับบรีพงานจากอารีฟีนและเพื่อนของเขาโดยที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกำหนดเนื้อหาของเกมแต่อย่างใด

"วิธีการเล่มเกมนี้ก็ไม่ยาก เราจะแจกการ์ดให้ทุกคนจนหมดกอง จากนั้นแต่ละคนก็จะต้องเอาการ์ดมาเรียงให้ถูกต้องตามไทม์ไลน์ ถ้าใครเรียงผิดก็จะต้องเอาการ์ดใบที่เรียงผิดแยกมากองว้น้าตัวเอง พอทุกคนเรียงจนการ์ดหมดมือเราก็มาดูกันว่าใครเรียงถูกมากที่สุดคือมีการ์ดกองตรงน้าตัวเองน้อยที่สุดก็ชนะไป ส่วนเวลาเฉลายเราก็แค่พลิกด้านหลังขึ้นมาก็จะมีเฉลยไว้ว่าเหตุการณ์ในการ์ดเกิดขึ้นเมื่อไหร่"

"ตอนที่เราทำเกมนี้ขึ้นมา ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดังหรือเป็นที่นิยมในวงกว้างอะไรขนาดนั้น เพราะมันเป็นเกมที่อยากพอสมควร แล้วก็ค่อนข้างจะเป็นประเด็นความสนใจเฉพาะกลุ่ม เราก็เลยไม่ได้คิดว่าจะผลิตขายหรืออะไร การ์ดชุดหนึ่งต้นทุนประมาณ 200 บาท เราก็ผลิตมา 50 ชุด กะว่าแจกนักวิชาการ นักกิจกรรมในพื้นที่ แล้วก็อาจจะส่งพวกร้านบอร์ดเกมหรือเพื่อนนักกิจกรรมในภูมิภาคต่างๆก็หมดแล้ว"

อารีฟีนเล่าต่อว่าเขาใช้เพจ Chachiluk Board game ที่สร้างขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นพื้นที่ในการประชาสัมพันธ์เกม (คำว่า Chachiluk (ชาชีลุก) เป็นภาษามลายูหมายถึงการละเล่นตำรวจจับโจร) โดยเริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่แล้วเกมที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นกระแสก็กลายเป็นกระแสจนได้ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนหนึ่งนำภาพการ์ดเกมใบหนึ่งไปแชร์ต่อพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเกม Patani Colonial Teritory มีเจตนาบิดเบือนประวัติศาสตร์

"จริงๆทั้งสำรับจะมีการ์ดทั้งมด 52 ใบ หลายๆใบก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือมีบันทึกไว้ ทีนี้มันมามีปัญหาตรงที่การ์ดที่พูดถึงเหตุการณ์กวาดต้อนคนปาตานีมาขุดคลองแสนแสบเราใช้รูปวาดเป็นรูปเท้าที่ถูกร้อยหวาย เท่านั้นแหละ ไอโอเอาไปถล่มเลยว่าเราบิดเบือนบ้างอะไรบ้างจนเป็นประเด็นขึ้นมา"

"คือเอาจริงๆเรื่องการเอาคนปาตานีมาขุดคลองเนี่ยมันมีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อยู่ ส่วนเรื่องการเอาหวายมาร้อยข้อเท้าเนี่ย มันไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเคยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่พวกเราได้รับฟังมาจากปู่ย่าตายาย เราก็เลยคิดว่าการ์ดใบนี้น่าจะวาดภาพประกอบเป็นรูปนี้ แต่ถ้าไปดูที่ตัวการ์ด เราก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเหตุการณ์เอาหวายร้อยเท้านะ แล้วก็ไม่มีเรื่องนั้นเขียนไว้เลย"

"พอไอโอเอาไปปั่น ก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีคนใหญ่คนโตในกองทัพภาคที่สี่ออกมาพูดเรื่องนี้ แล้วก็เหมือนจะมีนักการเมืองฝ่ายชาตินิยม อนุรักษ์นิยมเอาเรื่องนี้ไปพูดด้วย แต่เหมือนเวลาพวกนั้นไปพูดประเด็นก็จะกระจุกอยู่ที่กรุงเทพไม่ได้กระทบกับในพื้นที่มากนัก ที่เป็นปัญหาในพื้นที่น่าจะเป็นการปั่นของพวกไอโอมากกว่า"

เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในงานเปิดตัวเกม อารีฟีนยังได้ชวนแม่ทัพภาคที่สี่ให้มางานเปิดตัวเกมด้วย ซึ่งแม้ตัวแม่ทัพจะไม่ได้มาเอง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ท่าทางแปลกๆแฝงตัวมาในงานและร่วมเล่นเกมด้วย ซึ่งปรากฎว่าตอนเล่มเกมคนที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่คนนั้นก็วางการ์ดไม่ค่อยจะถูก และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ก็ยอมรับว่าเกมนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรสามารถเล่นได้ แต่ทว่าในวันเดียวกับที่มีงานเปิดตัวเกมก็มีเจ้าหน้าที่ไปคุกคามนักศึกษที่ทำกราฟฟิกให้อารีฟีน

"วันเดียวกับที่มีการเปิดตัวเกมปรากฎว่ามีตำรวจไปหาน้องที่ทำกราฟฟิกที่บ้าน แต่บังเอิญวันนั้นเขาไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่ก็บอกน้องผ่านครอบครัวว่าให้ไปหาที่สถานีตำรวจ โดยที่ไม่ได้มีหมายหรือเอกสารใดๆ ซึ่งพอทางกลุ่มเราทราบเรื่องก็ได้ออกแถลงการณ์แล้วก็พูดคุยกับน้องเขาว่าจริงๆจะไม่ไปพบกับตำรวจก็ได้เพราะเป็นการเชิญแบบไม่มีหมายหรือหลักฐานอะไร แต่สุดท้ายครอบครัวน้องเขาก็เลือกไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อความสบายใจ"

"นอกจากกรณีน้องกราฟฟิกแล้วก็มีกรณีร้านกาแฟที่บันนังสตาที่ตำรวจไปขอเกมจากที่ร้าน อ้างว่าเอาไปทำการตรวจสอบแต่ก็เหมือนยึดนั่นแหละเพราะเขาไม่ได้บอกว่าจะเอามาคืนเมื่อไหร่ แล้วก็ให้ทางร้านเซ็นยินยอมว่าไม่ได้เป็นการยึดแต่ทางร้านมอบให้เจ้าหน้าที่ด้วยความสมัครใจ ภาพตำรวจไปยึดเกมที่ร้านนี่แหละที่ทำให้เกมของเราดังขึ้นมาจากเดิมที่จำกัดอยู่แค่วงแคบๆ"

"หลังเกมถูกยึดจนเป็นข่าวก็มีเพื่อนนักกิจกรรมจากหลายๆพื้นที่ติดต่อขอรับเกม บางคนก็ติดต่อขอซื้อ ผมก็ได้แต่บอกว่าเราแจกไปหมดแล้ว และยังติดเงื่อนไขกับทางคนสนับสนุนโครงการอยู่ว่าจะต้องทิ้งเวลาอย่างน้อยสามเดือนถึงจะไปทำขายได้ คิดว่าถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มายึดหรือคุกคามเกมก็คงไม่ดังขนาดนี้"

ในช่วงที่อารีฟีนเดินทางมาร่วมชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างกำแพงกั้นคลื่นที่กรุงเทพ เขาก็ได้ติดเกม Patani Colonial Teritory ขึ้นมาด้วยซึ่งก็ปรากฎว่ามีผู้ชุมนุมที่เป็นคนกรุงเทพบางส่วนสนใจเล่นด้วย

ในฐานะคนเล่นบอร์ดเกม เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าการสร้างความสนุกกับการชวนคนที่เล่นเกมทำความรู้จักกับพื้นที่สามจังหวัดซึ่งเ็นบ้านของเขาให้มากขึ้น ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์ก็เป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยถกเถียงหาหลักฐานมาโต้แย้งกันได้

สำหรับใครที่อยากจับจองเป็นเจ้าของเกม Patani Colonial Teritory อาจจะต้องรอไปอีกอย่างน้อยสามเดือนก่อนที่อารีฟีนกับเพื่อนของเขาจะตัดสินใจอีกครั้งหนึ่งว่าจะทำเกมออกขายหรือไม่