Skip to main content

ตามคำบอกเล่าของทิพอัปสรหรือมิเชล หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ลูกพ่อขุนฯโค่นล้มเผด็จการ   การเคลื่อนไหวประเด็นการเมืองในรั้วรามคำแหงทั้งประเด็นการเมืองภายในและการเมืองในภาพใหญ่ดูจะไม่ได้เป็นไปในทางที่เอื้อต่อบรรยากาศประชาธิปไตยเท่าใดนัก โดยก่อนหน้านี้ในช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ที่มหาวิทยาลัยมีการเลือกตั้งองค์การนักศึกษารามคำแหง ในช่วงนั้นมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งออกมารณรงค์ให้เพื่อนักศึกษาออกไปเลือกตั้งอศมร ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยคนหนึ่งเข้าใจว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวรณรงค์เรื่องการเลือกตั้งส.ส.ก็เลยเข้ามาก่อกวนและทำร้ายร่างกาย https://web.facebook.com/watch/?v=397012184406094

หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆต่างออกมาทำกิจกรรมแฟลชม็อบอย่างคึกคัก แต่ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงกับยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทิพอัปสรจึงพูดคุยกับธนชัยหรือหอย เพื่อนอีกคนหนึ่งว่าน่าจะลองจัดแฟลชม็อบในพื้นที่มหาวิทยาลัยดู ซึ่งธนชัยก็เอาด้วย หลังจากนั้นจึงมีการเปิดเพจ "ลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการ" เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารและประชาสัมพันธ์แฟลชม็อบที่กำลังจะจัดขึ้น 

แฟลชม็อบครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง #ลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 แฟลชม็อบครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมแรกของกลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการด้วย แม้ว่าขณะนั้นคนที่อยู่ในกลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการจะมีเพียงแค่ทิพอัปสรและธนชัย แต่ก่อนถึงวันจัดแฟลชม็อบจะมีคนทักเข้ามาที่เพจเพื่อเสนอตัวให้ความช่วยเหลือเป็นระยะจนสุดท้ายแฟลชม็อบครั้งนั้นก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยมีคนเข้าร่วมการชุมนุมประมาณ 1000 คน  

จากนั้นในวันที่ 10 มีนาคม 2563 กลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการจัดการชุมนุมในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง โดยชู 3 ข้อเรียกร้อง ได้แก่ ให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)  ให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง และให้ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่มาจากการแต่งตั้งจากการรัฐประหารลาออกไป การชุมนุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมน้อยกว่าครั้งก่อนประมาณครึ่งหนึ่งโดยทิพอัปสรให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นเพราะวันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้าย ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในขณะนั้นก็เริ่มรุนแรงขึ้นและมีข่าวเรื่องการปิดเมือง นักศึกษาบางส่วนจึงกลับต่างจังหวัดไปแล้ว

ทิพอัปสรเล่าต่อว่าตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะยุติการทำเพจ ลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการไปตั้งแต่หลังการจัดแฟลชม็อบรอบที่สองในเดือนมีนาคมแล้วเพราะครั้งแรกที่สร้างเพจนี้ขึ้นมาก็เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์แฟลชม็อบในลามซึ่งก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากขณะนั้นมีคนกดไลค์และติดตามเพจมากกว่า 10000 คน เธอเลยตัดสินใจปรับรูปแบบการทำงานมาผลิตคอนเทนท์หรือแชร์คอนเทนท์มากขึ้นเนื่องจากในช่วงปิดเมืองการเคลื่อนไหวบนท้องถนนหรือในมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้

หลังจากนั้นในเดือนกรกฎาคมหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาปรับรูปแบบมาเป็นการขับเคลื่อนในพื้นที่สาธารณะแทนการเคลื่อนไหวในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งทิพอัปสรและธนชัยต่างก็ไปเข้าร่วมการชุมนุมครั้งต่างๆในนามส่วนตัว บทบาทของกลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการในฐานะกลุ่มที่เคลื่อนไหวในประเด็นการเมืองภาพใหญ่จึงลดลง แต่แฟนเพจของทางกลุ่มก็ยังคงมีการผลิตหรือแชร์คอนเทนท์อยู่เป็นระยะ รวมถึงยังถูกใช้ในการประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นๆเช่นกลุ่มราษฎร หรือกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นที่ขึ้นมาเคลื่อนไหวประเด็นผังเมืองจะนะที่กรุงเทพ

สำหรับการเคลื่อนไหวในพื้นที่มหาวิทยาลัย ในเดือนตุลาคม 2563 หลังมีกรณีนักศึกษา เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย - Ramkhamhaeng Network for Democracy  ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างจัดการชุมนุมในมหาวิทยาลัย กลุ่มลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการก็ทำกิจกรรมยื่นหนังสือทวงถามความเป็นธรรมต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัย และในเดือนธันวาคมก็มีการจัดกิจกรรมแต่งตัวข้ามเพศในวันเปิดเทอม 

สำหรับทิศทางในอนาคตขณะนี้เริ่มมีนักศึกษาที่สนใจเข้ามาร่วมทำงานเป็นสมาชิกกลุ่มมากขึ้น ซึ่งทางกลุ่มอาจจะมีการประเมินอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิดในระลอกที่สองคลายตัวว่าจะขยับหรือเคลื่อนไหวในประเด็นใดต่อไป

สำหรับเสื้อของทางกลุ่มออกแบบใช้สีเหลืองกับสีกรมท่าซึ่งเป็นสีของมหาวิทยาลัย ส่วนข้อความบนเสื้อเขียนเพื่อสื่อความเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชน แฟนเพจท่านใดสนใจเสื้อของทางกลุ่มสามารถสอบถามกับทางเพจได้โดยตรง 

ภาพถ่ายยกเว้นภาพเสื้อจากเพจ ลูกพ่อขุนโค่นล้มเผด็จการ