นักโทษประหารคนที่ 310 เป็นงานเขียนของ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน อดีตช่างซ่อมวิทยุและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เคยร่วมรบกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในเขตงานภาคใต้
สุรชัยเคยตกเป็นจำเลยในคดีเผาจวนผู้ว่าและคดีปล้นรถไฟจนตัวเขาต้องโทษประหารชีวิตแต่ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษและลดโทษตามลำดับจนได้รับการปล่อยตัวออกมา
หลังได้รับการปล่อยตัวสุรชัยยังคงคลุกคลีกับแวดวงการเมือง เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสว.จังหวัดนครศรีธรรมราชในปี 2545 แต่ไม่ได้รับเลือก เมื่อเกิดการรัฐประหาร 2549 และมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. สุรชัยก็ออกมาร่วมเคลื่อนไหวด้วยก่อนจะเปิดเวทีอิสระภายในกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้ชื่อ "แดงสยาม"
หลังการรัฐประหาร 2557 สุรชัยถูกคสช.เรียกรายงานตัวแต่เขาเลือกลี้ภัยไปประเทศเพื่อนบ้านและยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยทำรายการวิเคราะห์การเมืองเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ช่วงปลายปี 2561 สุรชัยหายตัวไปจากบ้านในประเทศเพื่อนบ้านก่อนที่ต่อมาจะมีการยืนยันว่าผู้ติดตามของเขาสองคนกลายเป็นศพลอยไปตามแม่น้ำโขงก่อนจะมาติดฝั่งไทยที่จังหวัดนครพนม
ข้อเขียนในหน้า 176 - 177 ในหนังสือของสุรชัย น่าจะบอกเล่าถึงที่ทางของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยกระแสหลักได้อย่างน่าสนใจยิ่ง
"พวกสหายเก่าเล่าให้ฟังว่า ตอนเข้ามาเคลื่อนไหวใหม่ๆโดยไม่เปิดเผย แต่พอชาวบ้านได้ข่าวคอมมิวนิสต์มาเท่านั้นก็พากันหลบหนีจนบ้านร้างหมูเห็ดเป็ดไก่ผลกหมากรากไม้ก็ไม่นำพาทิ้งกันเกลื่อนไว้ในหมู่บ้าน"
"ทั้งนี้เพราะพวกเขายังเข้าใจตามแบบเก่าๆว่าคอมมิวนิสต์ไม่ใช่คน ตามที่รัฐบาลสมัยก่อนวาดภาพโฆษณาทำเป็นยักษ์เป็นมารมีเขี้ยวมีเขา มือขวาถือกระบองหนามแหลม มือซ้ายถือคบไฟกำลังเหยียบพระจนลิ้นห้อยและเผาวัด ครั้นต่อมาเมื่อพวกเขาค่อยๆทะยอยกลับมาทำมาหากินตามเดิมเขาก็ไม่เห็นมียักษ์คอมมิวนิสต์แต่อย่างใด จนกระทั่งในที่สุดเมื่อพวกสหายค่อยๆเปิดตัวพวกเขาจึงได้รู้ว่า คอมมิวนิสต์ก็เป็นคนเหมือนพวกเขานั่นเอง"
หมายเหตุ หนังสือเล่มนี้ถูกวางให้อ่านที่ The Reading Room สีลม 19 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการห้องสมุด สามัญชน โครงการในความร่วมมือของ The Reading Room Bangkok กับ พิพิธภัณฑ์สามัญชน